โรงเรียนบ้านหนองแร้ง (แหลมสุขประชานุกูล)

หมู่ 5 บ้านหนองแร้ง ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี 70150

Mon - Fri: 9:00 - 17:30

094-9269494

สมรภูมิการค้าออนไลน์ของโลก

สมรภูมิการค้าออนไลน์ของโลก

การค้าออนไลน์

การค้าออนไลน์ การค้าอิเลคทรอนิคส์หรือ การค้าออนไลน์ หรือเรียก โดยย่อว่าอีคอมเมิร์ซ (E-Commerce) เติบโตอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลาหลายปีและมีแนวโน้มจะขยายตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องถึงขนาดที่จะแซงหน้าการค้าแบบเดิมในเวลาอีกไม่กี่ปี ตลาดการค้าออนไลน์ทั่วโลกเรียงตามลำดับของประเทศที่มีปริมาณการค้ามากที่สุด ดังต่อไปนี้ จีน สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ญี่ปุ่น เยอรมัน เกาหลีใต้ ฝรั่งเศส แคนาดา รัสเชียและบราซิล ตามลำดับ

อ้างอิงข้อมูลในปี 2019 แต่ทิศทางของปริมาณการค้าออนไลน์กำลังจะย้ายมาทางเอเชียแปซิฟิกมากว่าทวีปอื่นมากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนแนวโน้มของการค้าขายระหว่างกันนั้นในอนาคตการค้าแบบ B2B (Business to Business) จะมีปริมาณมากกว่าการค้าแบบ B2C (Business to Consumer) ในปี 2019 ทั่วโลกมีปริมาณการค้าออนไลน์ 3.4 ล้านล้านดอลล่าร์ คาดว่าในปี 2022 ปริมาณการค้าออนไลน์จะสูงกว่า 6.5 ล้านล้านดอลล่าห์ 

ผู้ให้บริการการค้าออนไลน์รายใหญ่ในระดับโลก มีการจัดอันดับตามปริมาณการค้าขายห้าอันดับแรกของโลกคือ 

อันดับที่หนึ่งคืออาลีบาบา (Alibaba) อาลีบาบาก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1999 โดยแจ๊ค หม่า ความจริงอาลีบาบาอยู่ในรูปแบบของกลุ่มบริษัทชื่ออาลีบาบากรุ๊ป (Akibaba Group) ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทที่ทำธุรกิจหลายประเภท ประกอบด้วย ธุรกิจการค้าอิเลคทรอนิคส์ (E Commerce) , ธุรกิจค้าปลีก (Retail), ธุรกิจคลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing), ธุรกิจสื่อบันเทิง (Entertainment Media) และธุรกิจนวัตกรรมทางเทคโนโลยี

(Technology Innovation) ในส่วนของธุรกิจการค้าอิเลคโทรนิคส์ อาลีบาบามีธุรกิจที่รองรับ ธุรกิจการค้าออนไลน์แบบ B2B หรือการค้าแบบขายส่ง แต่เดิมอาลีบาบามี 1688.com ซึ่งเกิดขึ้นมาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งอาลีบาบาอยู่แล้วและทำการค้าขายภายในประเทศจีนเอง แต่ต่อมาอาลีบาบาเปิด Alibaba.com ขึ้นมาเพื่อทำการค้าได้ทั่วโลก สำหรับธุรกิจการค้าแบบ B2C หรือการขายปลีก อาลีบาบามี Taobao.com และ TMALL ซึ่งทำการค้า

ปลีกในประเทศจีนและเป็นอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่มี่สุดในประเทศจีน และอาลีบาบายังมี AliExpress.com และ Lazada ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติสิงคโปร์ที่อาลีบาบาถือหุ้นใหญ่อยู่ด้วยเพื่อการค้าปลีกนอกประเทศจีนและทั่วโลก อาลีบาบาเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจค้าปลีกและอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดในโลกและเป็นหนึ่งในบริษัทที่ทำธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตที่ใหญ่ที่สุดในโลกและเป็นบริษัทด้านเอไอ (Artificial Intelligent) ที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก

อาลีบาบายังมีอาลีเพย์ (Alipay) ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจบริการชำระเงินออนไลน์ (Online Payment) และเป็นบริษัทลูกของ Ant Financial Services Group ในเครือ    อาลีบาบา 

อันดับที่สองคืออเมซอน (Amazon) เป็นบริษัทค้าขายออนไลน์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกาภายชื่อ Amazom.com และเป็นเบอร์สองของโลกรองจากอาลีบาบา มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองซีแอตเติล สหรัฐอเมริกา ก่อตั้งโดยเจฟฟ์ เบซอส เมื่อปี 1994 ทำธุรกิจหลักทางด้านการค้าอิเลคทรอนิคส์ (E-Commerce), คลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing), ดิจิตอลสตรีมมิ่ง (Digital Streaming) และ AI (Artificial Intelligence) ที่อยู่

ภายใต้การดำเนินงานของบริษัทลูกของ อเมซอนหลายบริษัท ความจริงธุรกิจเมื่อเริ่มต้นของอเมซอนมาจากการขายเพลงและวิดิโอและขยายธุรกิจไปยังประเทศต่างๆ ด้วยการจำหน่ายหนังสือทางออนไลน์ ต่อมาอเมซอนได้ขยายไลน์ของธุรกิจออกไปอีกหลายธุรกิจในช่วงเวลายี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา ปัจจุบันอเมซอนเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตที่มีรายได้มากที่สุดในโลก และอเมซอนมีบริษัทย่อยกว่า 40 บริษัท

อันดับที่สามคืออีเบย์ (eBay) ของสหรัฐอเมริกาเจ้าของ ebay.com ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1995 โดย ปิแอร์ โอมิตดียาร์ ให้บริการขายสินค้าในแบบซื้อและจ่ายเงินทันทีและอีกแบบหนึ่งคือการขายแบบประมูล อีเบย์เน้นการให้บริการอีคอมเมิร์ซแบบ C2C (Consumer to Consumer) และ B2C (Business to Consumer) อีเบย์มีสินค้าและบริการทุกประเภทซึ่งบุคคลทั่วไปสามารถนำมาค้าขายกันหากสินค้านั้นไม่ผิดข้อกำหนดของอีเบย์ ระบบการ

ชำระเงินที่ผู้ใช้บริการอีเบย์นิยมใช้บริการมากที่สุดคือ เพย์พัล (Paypal) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนกับอีเบย์ แต่ภายหลังอีเบย์ได้แยกตัวออกจาก   เพย์พัลและประกาศว่าผู้ให้บริการรับชำระเงินหลักของอีเบย์เปลี่ยนเป็นแอดเย็น (Adyen) ของประเทศเนเธอแลนด์ แต่ Paypal ก็ยังเป็นทางเลือกในการชำระค่าบริการของอีเบย์อยู่ต่อไป

อันดับที่สี่คือราคูเทน (Rakuten) เป็นบริการอีคอมเมิร์ซของประเทศญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในเจ้าของบริการการค้าอิเลคทรอนิคส์ (E Commerce) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก นอกจากอีคอมเมิร์ซแล้ว ราคูเทนยังมีบริการ ดิจิตอลคอนเทนต์ (Digital Content) บริการข้อมูลทางการเงินและการท่องเที่ยว ราคูเทนได้ขยายการค้าออนไลน์ไปทั่วโลก โดยเริ่มจากประเทศอังกฤษและขยายตลาดออกไปยังปประเทศอื่นๆในยุโรป ในเอเชียแปซิฟิกราคูเทนเปิด

สำนักงานในระดับภูมิภาคอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ให้การดูแลครอบคลุมประเทศไทย มาเลเชียและอินโดนิเชีย ในอดีตราคูเทนเคยเป็นผู้คือหุ้นในเวปตลาดดอทคอม (Talad.com) ในประเทศไทยแต่ปัจจุบันได้ถอนตัวออกไปแล้ว

อันดับที่ห้าคือเจดีดอทคอม (JD.com) เป็นของประเทศจีนหรือที่เรียกกันทั่วไปในประเทศจีนว่าจิงดอง (Jing Dong) เป็นผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซในแบบ B2C ที่ใหญ่เป็นอันดับที่สองในประเทศจีนและเป็นคู่แข่งของ TMALL ของอาลีบาบา ก่อตั้งปี 1988 มีสำนักงานใหญ่อยู่ในปักกิ่ง แต่เดิมเคยใช้ชื่อว่า 360buy,com เปลี่ยนชื่อเป็น JD.com เมื่อปี 2013 เจดีดอทคอมมีพาร์ทเนอร์ที่สำคัญคือเทนเซ็นท์ (Tencent) ซึ่งเป็นผู้พัฒนา

WeChat ซึ่งเป็นแอปพลิเคชั่นโซเชียลมีเดียและการชำระเงินผ่านช่องทางโมบายที่ใหญ่ที่สุดในโลก เทนเซ็นต์ถือหุ้นในเจดีดอทคอม 20 เปอร์เซ็นต์   เจดีคอทคอมมีความโดดเด่นในการใช้เทคโนโลยีระดับสูงอย่างเอไอ รถยนต์ไร้คนขับและหุ่นยนต์รวมถึงการใช้เทคโนโลยีโดรนมาใช้งานในการสนับสนุนธุรกิจอย่างเช่น การทำงานในคลังสินค้าหรือการนำส่งสินค้าให้ลูกค้า เจดีดอทคอมได้ร่วมมือกับเซ็นทรัลกรุ๊ปของประเทศไทยเปิดบริการ        อีคอมเมิร์ซในชื่อ เจดีเซ็นทรัล  (JD Central) และเปิดตัวเวป JD.co.th เพื่อให้บริการในประเทศไทย

ในอนาคตการแข่งขันการค้าออนไลน์ในโลกจะทวีความเข้มข้นขึ้นเรื่อยระหว่างผู้ให้บริการรายใหญ่ระดับโลกเหล่านี้ที่จะแข่งขันกันรุกคืบเข้าไปในประเทศต่างๆทั่วโลกเพื่อแย่งส่วนแบ่งการตลาดที่เป็นเงินมหาศาลเละเพิ่มมากขึ้นทุกปี ในประเทศไทยเองผู้ให้บริการการค้าออนไลน์รายใหญ่มีอยู่สามรายคือลาซาด้าก็มีอาลีบาบาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่

ส่วนชอปปี้ก็เป็นอีคอมเมิร์ซของสิงคโปร์และเจดีเซ็นทรัลก็คือการร่วมทุนระหว่างเซ็นทรัลกรุ๊ปกับเจดีดอทคอมของจีน ซึ่งทั้งสามรายก็แข่งกันทำตลาดกันอย่างดุเดือด ส่วนผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซสัญชาติไทยจริงๆ คงไม่มีทุนหนาพอที่จะไปแข่งขันกับรายใหญ่ทั้งสามรายนี้ได้ ก็ทำได้เพียงประคองตัวให้อยู่ต่อโดยขอส่วนแบ่งการตลาดบางส่วนแม้ว่าจะมีไม่มากก็ยังดี