โรงเรียนบ้านหนองแร้ง (แหลมสุขประชานุกูล)

หมู่ 5 บ้านหนองแร้ง ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี 70150

Mon - Fri: 9:00 - 17:30

094-9269494

คำว่า“ไม่เต็ม”พูดเบาๆก็เจ็บ

คำว่า“ไม่เต็ม”พูดเบาๆก็เจ็บ

ออทิสติก

ออทิสติก ทุกคนมีเรื่องราวในอดีตที่ไม่อยากจะพูดถึงมันสักเท่าไหร่  และยังมั่นใจว่าทุกคนต้องประสบกับเรื่องราวในอดีตที่ไม่อยากจะเล่าเสียเท่าไหร่ ถ้าคำด่าเหล่านั้นเกิดจากความเกลียดชัง หรือเห็นบุคคลที่ไม่เข้ากับเราแล้วเหมือนตัวตลกคนหนึ่ง  ซึ่งเหตุการณ์ที่ผู้เขียนจะเล่าให้ฟังตอนนี้  เป็นเหตุการณ์ในสมัยเรียนซึ่งช็อกมากพอสมควร  เพราะเรื่องราวเหล่านั้นมันเกี่ยวข้องกับ… เด็กพิเศษ  หรือที่เรียกกันว่า “ออทิสติก”

เนื่องด้วยโรงเรียนของผู้เขียนเป็นโรงเรียนมัธยม  และยังเป็นโรงเรียนเรียนร่วม  ที่โครงการผู้พิการสามารถเรียนร่วมกับเด็กปกติในชั้นเรียนได้โดยไม่แบ่งแยก  ไม่ถูกเลือกปฏิบัติ

แม้ว่าโครงกายนี้จะเป็นโครงการที่ดี  แต่บางทีโครงการนี้ก็คือดาบสองคมดีๆ  เนื่องด้วยในโรงเรียนยังแก้ไม่หายเรื่องการกลั่นแกล้งในโรงเรียน  การใช้คำพูดส่อเสียดกันและกัน  ทะเลาะวิวาทกันในโรงเรียน  นอกจากนี้โรงเรียนมักจะเป็นแบบวัวหายล้อมคอกอยู่บ่อยครั้ง 

ซึ่งเป็นสิ่งที่การศึกษาไทยต้องปรับปรุง  แม้ว่าการเพิ่มโครงการเรียนร่วมจะเป็นการขยายโอกาสก็ตาม  ซึ่งจะขยายโอกาสได้ผลนั้น  จะต้องขยายทั้งโอกาสและที่ยืนในสังคมด้วย

เพื่อไม่ให้มาสอนเรื่องความเข้มแข็งในภายหลัง…ให้เขาได้เข้มแข็งในสิ่งที่ควรจะดีกว่าไหม  เขาอาจจะรับมือสิ่งนี้ได้ดีกว่าการรับมือในสิ่งที่บั่นทอนจิตใจทุกวัน

ผู้เขียนได้มาร่วมงานวันแม่  ซึ่งเป็นงานวันแม่จัดที่หน้าเสาธง  ผู้เขียนมักจะนั่งหลับแทบทุกปีเนื่องจากไม่ค่อยอินอะไรกับงานโรงเรียนแบบนี้สักเท่าไหร่  เพราะมันเป็นการมัดมือชกเด็กมากกว่าที่จะมาจงรักภักดี  สำนึกในพระคุณของแม่สามารถสร้างได้ด้วยใจของเราเอง 

ไม่ต้องเริ่มจากการบังคับขู่เข็ญ  หรือไม่เข้าจะมีผลต่อคะแนน  จึงไม่แปลกใจเลยถ้าหากเด็กวัยรุ่นในตอนนั้นจะหาเรื่องโดดเรียนกันอยู่มากมาย  เนื่องด้วยกฎระเบียบในโรงเรียนและการมัดมือชก

เริ่มเรื่องเลย….ตอนงานวันแม่ซึ่งจะมีการร้องเพลงวันแม่  แต่ปีนั้นจะเป็นปีที่แปลก  เนื่องด้วยนักร้องที่มีชื่อเสียงประจำโรงเรียนนั้น  เธอสูญเสียแม่ตั้งแต่อายุ 5 ขวบ  ซึ่งฉันไม่เข้าใจเลยว่าเอาพี่เขามาร้องเพลงทำไม  จะไม่สร้างตราบาปแห่งความเจ็บปวดในใจเพิ่มขึ้นไปอีกหรือ 

ซึ่งถ้าใครมาร้องเพลงในช่วงนั้นแล้วตัวเองไม่มีแม่ด้วย  มีอันต้องร้องไห้เกือบทุกราย  เนื่องจากมันตอกย้ำปมไม่มีแม่เพิ่มขึ้น  จนคนข้างๆ  บ่นกันว่าโรงเรียนเอามาร้องในช่วงนี้ทำไม

ตกลงเอามาในงานโรงเรียนหรือมาขายดราม่าเพื่อสร้างกระแสกันแน่?

เธอชื่อพี่อร  เธอเป็นคนร้องเพลงลูกทุ่งเพราะมาก  ได้แชมป์ระดับประเทศหลายรางวัล   แล้วพี่เขาเป็นคนอัธยาศัยดีมากๆ  ด้วย  เพื่อนๆ  ชอบเขามากเพราะเขาเรียนเก่งมากเลยล่ะ

ฉันสงสารพี่เขามาก  ไม่ได้สงสารที่อดีตที่ไม่มีแม่ของเขา  แต่สงสารตรงที่คนที่ดำเนินการเรื่องงานวันแม่ในโรงเรียน  ทำไมต้องเอาคนนี้มาทั้งที่รู้ว่าจะเจ็บปวดในใจ  จะตอกย้ำปมด้อยของเขา  และไม่เข้าใจว่าทำไมไม่เอานักร้องคนอื่นที่สภาพจิตใจสู้ไหวมาร้องเพลงวันแม่  นักร้องในโรงเรียนก็ไม่ใช่ไก่กา

หลังจากพี่อรร้องเพลง  “เรียงความของแม่”  ด้วยความที่ฟังไม่จบและจุกไปกับพี่เขาด้วย  ทีนี้มางานต่อมาก็เป็นการเชิญแม่ตัวอย่าง  ซึ่งพอครูได้อ่านชื่อของแม่ตัวอย่างประจำโรงเรียนปีนั้น  ทำให้นึกออกว่าเป็นผู้ปกครองของน้อง ม.ต้นคนหนึ่งซึ่งเป็นออทิสติก  และมาเป็นแม่ตัวอย่างเป็นปีที่ 2 แล้ว

แต่สิ่งที่ต้องช็อกกับวันแม่ในปีนั้นมากที่สุด  นั่นก็คือ…ครูที่โรงเรียนถามว่าคุณแม่รู้สึกยังไงกับกิจกรรมของโรงเรียน  แม่ตัวอย่างบอกว่า  “ลูกของเขาโดนกลั่นแกล้งเพราะไม่เต็ม”  ลูกชายต้องหลบหลังแม่เหมือนกลัวอะไรอยู่

แม่เขามาที่งานนี้ปีที่สอง  แม่ขอร้องให้ครูช่วยดูแลลูกเขาเนื่องจากลูกเป็นเด็กออทิสติก  แต่อยากให้เรียนร่วมในชั้นเรียนเหมือนกันกับเพื่อนๆ  เนื่องด้วยค่าเทอมสู้ไม่ไหวถ้าให้เรียนเอกชน  แต่การให้ลูกเรียนที่นี่กลายเป็นฝันร้ายของคนเป็นแม่และลูกชายของเขาโดยสิ้นเชิง 

แทนที่จะส่งให้ลูกมาเรียนเพื่อมีวิชาติดตัวตามที่ตั้งใจ  แต่ส่งไปเรียนเหมือนโรงเรียนไม่มีความปลอดภัยให้กับลูกเลย  กลับบ้านทุกครั้ง  ไม่ข้าวของโดนขโมย  รองเท้าหาย  เสื้อผ้ายับยู่ยี่  ร้องไห้ตาบวมกลับมาบ้านเพราะสู้ไม่ได้  ซ้ำร้ายกว่านั้นยังโดนทำร้ายร่างกายจากกลุ่มนักเรียนที่ชอบแกล้งจนหวาดกลัวกับการเข้าสังคม

เด็กพิเศษมีความไร้เดียงสาค่อนข้างมาก  มีความบริสุทธิ์   มองโลกเป็นสีขาวจากการเลี้ยงดูของคนในครอบครัว  แต่เหมือนไม่อาจรับมือกับโลกสีดำในรั้วโรงเรียนได้เลย  เด็กคนนี้ได้รับการกลั่นแกล้งจนต้องหนีหัวซุกหัวซุน  จากกลุ่มเด็กนักเรียนหัวโจกที่อันธพาล  คอยแกล้งคนที่อ่อนแอกว่า 

จนตอนนี้ต้องหนีครู  หนีเพื่อนร่วมชั้นจนทุกคนวุ่นวาย  ฝันร้ายจากสิ่งที่ลูกตัวเองโดนแกล้งมันคอยหลอกหลอนซ้ำเติม  จนกลัวการเข้าหาเพื่อนๆ  ไม่ปฏิสัมพันธ์กับใคร  เพราะกลัวว่าเขาจะโดนกลั่นแกล้งเหมือนที่เขาเคยเจอ  มีหรือคนเป็นแม่จะมองลูกตัวเองเฉยได้หรือ?

นี่คือสิ่งที่แม่ตัวอย่างในปีนั้นพูดออกมาทั้งน้ำตา  แค่ลูกเกิดมาโดนตราหน้าว่า “ไม่เต็ม”  ก็เจ็บปวดแล้ว  ถ้าเลือกได้ก็อยากให้ลูกเป็นเด็กปกติ  ร่าเริงสดใสสมวัยเหมือนเด็กทั่วไป  แม่พูดไปตีอกตัวเองไปจนครูบอกว่าให้ใจเย็นๆ

“ถ้าอยากตบหัว  อยากแกล้ง  อยากด่าว่าไม่เต็ม  ให้มาด่าที่แม่สิ  แม่เจ็บตัวพอรับได้  แต่ลูกแม่ถ้าลูกเจ็บ  ใจแม่ก็จะขาดอยู่แล้ว  ถ้ามีสำนึกความเป็นคนเหลืออยู่  ให้ลูกแม่มีที่ยืนในสังคมสักคนจะได้ไหม”

จากเสียงเจี๊ยวจ๊าวของเด็กนักเรียนที่คุยแทรกกันในแต่ละชั้นเรียน  กลายเป็นเงียบทันที  เมื่อสิ่งที่แม่เด็กคนนี้พูดในงานวันแม่  แต่ผู้เขียนขอขอบคุณคุณแม่ที่เป็นต้นเรื่องทำให้ฉุกคิดได้ว่า  ไม่ว่าจะเต็มหรือไม่เต็มเขาก็คือมนุษย์  ทุกคนควรมีสิทธิ์ที่จะได้รับความปลอดภัยในบ้าน  โรงเรียน 

และสภาพแวดล้อมที่ตนเองอยู่ตามทฤษฎีของมาสโลว์   และหวังว่าจะเป็นเรื่องที่ควรตระหนักอย่างมากในการศึกษาของไทย  และโรงเรียนไหนก็ตาม

ทุกคนมีสิทธิ์ได้รับการศึกษา  มีสิทธิ์ที่จะปลอดภัยในชีวิตของตนเองโดยปราศจากการคุกคามทั้งปวง  แม้กระทั่งอยู่ที่โรงเรียน  ซึ่งควรเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับเด็กๆ  ไม่ว่าจะรวยหรือจน

ถ้าวันหนึ่งเราเป็นพ่อแม่คน  และมีลูกที่ถูกกลั่นแกล้งมาตลอด  วันนั้นคุณจะเข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง