เงินซื้อความสุขได้หรือไม่
เงินทอง มีหลายคนเชื่อว่าเงินทองเป็นของนอกกายเเละหากไม่มีเงินเราก็ยังสามารถดำรงอยู่ได้ เเต่ในทางตรงกันข้ามคนอีกหลายคนก็มองว่า เงินทอง เป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากในชีวิต เราจะมีความสุขมากน้อยเเค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับเงินเป็นตัวกำหนด บทความในวันนี้เป็นเรื่องราวของชายคนหนึ่งที่พยายามทำทุกอย่างให้ครอบครัวของเขามีความสุขไม่ว่าจะต้องเเลกมากับอะไรก็ตาม
“เมษา รีบเเต่งตัวได้เเล้ว เดี๋ยวพ่อจะไปส่งที่โรงเรียนเเล้วก็จะได้รีบไปทำงาน”
“มากินข้าวกันก่อนเร็ว เเม่ทอดไข่ไว้ให้คนละฟอง”
เขาเป็นชายคนนึงที่มีครอบครัว มีลูก มีภรรยา โดยเขาเป็นเสาหลักของครอบครัว เขาต้องทำงานหาเช้ากินค่ำทุกวันแต่นั่นมันก็ไม่ได้ทำให้เขามีรายได้มากพอที่จะทำให้ครอบครัวสุขสบาย เพราะเขาเป็นเพียงพนักงานเงินเดือนคนนึงที่มีรายจ่ายมากพอๆกับรายได้ ดังนั้นการจะใช้จ่ายเงินในการซื้อของกินหรือของใช้ที่ทำให้ตัวเองมีความสุขและสะดวกสบายจึงเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงสำหรับเขา
“ทำงานอะไรแบบนี้เนี่ย ทีหน้าทีหลังถ้าทำงานไม่มีคุณภาพก็เตรียมตัวลาออกได้เลย”
“ผมทำงานตามที่นายสั่งทุกอย่าง มีอะไรขาดตกบกพร่องหรือเปล่าครับ”
“อย่ามาเถียงนะ เป็นแค่ลูกจ้าง บอกให้ทำอะไรก็ทำไปเถอะ”
การทำงานในแต่ละวันของเขาเป็นอะไรที่ยากมาก เเต่สิ่งที่ยากกว่างานที่เขาทำคือการทนคำด่า คำดูถูกของเจ้านาย เขาต้องอดทนกับอะไรพวกนี้เพราะเขายังมีลูกและภรรยาที่ต้องดูแล ไม่ว่าเขาจะต้องอดทนมากแค่ไหนเขาก็ยอมเพื่อแลกกับเงินในการเลี้ยงปากท้องของคนในครอบครัว
“พี่ สิ้นเดือนนี้โรงเรียนเขาบอกให้จ่ายค่าเทอม ถ้าสิ้นเดือนนี้เราไม่จ่ายลูกของเราก็จะต้องออกจากโรงเรียนนะ”
“ไปคุยกับเขาให้ผ่อนผันไปก่อนได้ไหม สิ้นเดือนนี้ยังไงเราก็ต้องจ่ายค่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ คงไม่มีเงินพอไปจ่ายค่าเทอมของลูกแน่ๆ”
“เดี๋ยวจะลองไปคุยกับเขาให้นะ แต่ว่าเราก็ผ่อนผันมาหลายเดือนแล้ว กลัวว่าครั้งนี้เขาจะไม่ยอมน่ะสิ”
“ยังไงก็ต้องลองไปคุยก่อนเพราะว่าเราไม่มีจริงๆ อย่าบอกเรื่องนี้กับลูกนะ พี่ไม่อยากให้ลูกไม่สบายใจ”
รายจ่ายที่มีอยู่รอบตัวทำให้เขาไม่มีเงินพอที่จะไปจ่ายค่าเทอมของลูกทั้งๆที่มันก็เป็นหนึ่งค่าใช้จ่ายที่จำเป็น โรงเรียนที่เขาส่งลูกไปเรียนเป็นโรงเรียนที่มีสังคมที่ดี มีสนามเด็กเล่น มีการเรียนการสอนที่น่าสนุก เขาเพียงอยากให้ลูกของเขามีความสุขถึงแม้ว่าเขาจะต้องเหนื่อยอีกกี่เท่าก็ตาม
“เฮ้ยเราอ่ะ อยากหารายได้พิเศษหรือเปล่า”
“มีงานอะไรให้ผมทำหรอครับ”
“ก็ไม่อยากมากหรอก แต่ถ้างานนี้สำเร็จพี่ให้หมื่นนึง”
เมื่อเขาได้ยินผลตอบแทนที่จะได้รับเขาก็รีบตอบตกลงทันทีโดยที่ยังไม่รู้ว่างานที่เขาต้องทำคืองานอะไร เขาคิดเพียงแต่ว่าเงิน 10,000 บาทจะทำให้ครอบครัวของเขามีความสุขมากกว่านี้และชีวิตของลูกและภรรยาคงจะสบายไปอีกนาน
“งานที่จะให้ทำก็แค่ส่งของง่ายๆ เอากระเป๋าเป้นี้ไปส่งให้กับกลุ่มวัยรุ่นพรุ่งนี้ตอนเช้ามืด”
“แค่นี้หรอพี่ ทำไมงานง่ายๆแค่นี้ผมได้เงินตั้งเยอะ”
“ลองเปิดดูในกระเป๋าเป้สิ”
“ห้ะ!! นี่มันของผิดกฎหมายทั้งนั้นเลย ผมไม่ทำหรอกพี่มันเสี่ยงเกินไป”
“ลองคิดดูดีๆนะ แค่เอากระเป๋าเป้ไปให้กลุ่มวัยรุ่น แลกกับเงิน 10,000 บาทที่จะทำให้ครอบครัวสบายไปอีกนานเลย”
“ถ้าผมจะทำงานนี้ ผมขอเบิกกับพี่มาก่อน 5,000 บาทเพราะว่าผมจะเอาไปจ่ายค่าเทอมลูก”
สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจรับงานนั้น ถึงแม้ว่ามันอาจจะเสี่ยงต้องโดนตำรวจจับแต่ในเวลานั้นเขาไม่ได้คิดถึงข้อนี้ คิดเพียงแต่ว่าจำนวนเงินที่มาวางตรงหน้ามันมากจนทำให้ไม่สามารถแยกว่าอะไรถูกหรืออะไรผิดได้ สำหรับเขาเงินเป็นสิ่งที่จำเป็นมากในชีวิต เขาไม่สามารถอยู่ได้ถ้าหากไม่มีเงินสักบาทในกระเป๋า
“พี่ ตื่นแต่เช้ามืดเลยจะไปไหนเข้างานตอน 8:00 น ไม่ใช่หรอ”
“พี่จะไปทำให้ครอบครัวเราสุขสบายขึ้นไงล่ะ ฝากไปส่งลูกที่โรงเรียนด้วยนะเดี๋ยวพี่กลับมาตอนเย็น”
เขาไปทำงานตามที่ได้รับมอบหมายแต่สุดท้ายทุกอย่างมันก็ไม่ได้เป็นแบบที่เขาคิด ในเมื่องานที่เขาทำมันมีความเสี่ยงผลที่เขาได้รับกลับมาคือเขาถูกหลอกให้ไปเป็นแพะรับบาป คนที่จ้างเขารู้อยู่แล้วว่าถ้าหากเขาไปส่งของตามที่บอก เขาก็จะถูกตำรวจจับในข้อหาค้าสิ่งผิดกฎหมาย เงิน 10,000 บาทแลกกับการที่เขาต้องติดคุกในคดีที่เขาไม่ได้ก่อ มันไม่คุ้มกันเลยกับการที่ต้องจากลูกและภรรยาไปอยู่ในที่ที่ไม่ควรอยู่
“พี่ ทำไมพี่ถึงทำแบบนี้ แล้วฉันกับลูกจะอยู่ยังไง”
“พ่อ พ่ออย่าจากพวกเราไปเลยนะ หนูไม่อยากให้พ่อไป”
“พ่อขอโทษนะลูกพ่อผิดเอง พ่อไม่น่าหลงผิดเเบบนี้เลย พ่อก็แค่อยากให้แม่กับลูกได้อยู่กันอย่างสบายแต่สิ่งที่พ่อทำมันเป็นสิ่งที่ผิดพ่อก็ต้องได้รับผลกรรม”
บทเรียนในครั้งนี้ของเขาก็คือเงินเป็นสิ่งที่สำคัญในการดำรงชีวิตก็จริง แต่วิธีที่จะหาเงินนั้นมีอยู่มากมายถึงแม้ว่าอาจจะไม่ได้เงินเร็วทันใจแต่ถ้าหากเป็นอาชีพที่สุจริตแล้วมันก็จะทำให้เราสามารถดำเนินชีวิตต่อได้อย่างมีความสุข ดีกว่าการที่เราได้เงินมาเยอะๆในเวลาอันสั้นแต่ต้องเสี่ยงกับการถูกตำรวจจับ ซึ่งจากที่ได้เห็นข้างต้นมันก็ไม่คุ้มกันเลย
เงินสามารถซื้อความสุขได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับความคิดของแต่ละคน การกินอิ่ม นอนได้อย่างหลับสบาย เป็นสิ่งหลักๆที่จะทำให้คนเรามีความสุขและสิ่งเหล่านี้ก็ต้องใช้เงินแลกทั้งนั้น บางทีเงินอาจจะมีอิทธิพลในชีวิตของเรามากจนเกินไป
จึงทำให้เราหน้ามืดตามัวไม่สามารถแยกออกว่าอะไรถูกอะไรผิด ซึ่งในความเป็นจริงแล้วเราควรอยู่ในศีลธรรมไม่ว่าจะมีเงินมาวางตรงหน้ามากแค่ไหน แต่ถ้าสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ผิดมันก็ไม่คุ้มที่จะเอาชีวิตของตัวเองไปเสี่ยง
อ่านสาระเพิ่มเติมคลิก : สุนัข